สถานการณ์สุขภาพของพนักงาน บริษัท ลัคกี้เฟลม จำกัด พบปัญหาด้านสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยความตระหนักในปัญหานี้และวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาวะพนักงานมาโดยตลอด จึงได้ริเริ่มกระบวนการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านสุขภาพที่แข็งแรง ส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขในการมาทำงานเพิ่มขึ้น การดำเนินงานเริ่มต้นจากการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของพนักงาน เช่น ดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อนำมาออกแบบกิจกรรมสุขภาวะที่ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

กระบวนการดำเนินงานองค์กรสุขภาวะด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย

1. การสำรวจและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ

• เริ่มต้นจากการตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของพนักงานที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานในภาพรวม จึงได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นของพนักงานทุกคนอย่างเป็นระบบ
• ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมประกอบด้วย ดัชนีมวลกาย (BMI) รอบเอว และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย การบริโภคอาหาร หรือพฤติกรรมการสูบบุหรี่
• การดำเนินการในขั้นตอนนี้ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล แต่เป็นการนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพของพนักงานแต่ละคนกับความเสี่ยงของโรคต่างๆ และนำไปสู่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มพนักงานที่มีค่า BMI เกินมาตรฐาน หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

2. การออกแบบกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม

• จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ ได้ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ตัวอย่างที่เด่นชัดคือโครงการ "ลดพุงลดโรค" ซึ่งถูกจัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาน้ำหนักเกินและรอบเอวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของหลายโรค
• กิจกรรมนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การบอกให้พนักงานออกกำลังกาย แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้ด้านโภชนาการ การจัดการความเครียด และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
• มีการออกแบบกิจกรรมให้มีความยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่าย เช่น การจัดกิจกรรมออกกำลังกายเบาๆ ในช่วงพัก หรือการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางกายภายในบริเวณบริษัท

3. การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

• เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
• มีการนัดหมายพนักงานที่เข้าร่วมโครงการเพื่อตรวจสุขภาพ วัดรอบเอว และชั่งน้ำหนักตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้
• ผลการติดตามจะถูกบันทึกและนำมาวิเคราะห์เพื่อประเมินความก้าวหน้าของแต่ละบุคคล และนำมาปรับปรุงกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการนำเสนอความสำเร็จของโครงการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานคนอื่นๆ

4. การสร้างแรงจูงใจและการสื่อสาร

• เชื่อว่าแรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัล สำหรับพนักงานที่สามารถทำตามเป้าหมายที่กำหนดได้
• รางวัลนี้อาจไม่ใช่แค่ของรางวัลทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงการยกย่องและเชิดชูความสำเร็จในที่สาธารณะ เช่น การประกาศชื่อผู้ทำสำเร็จในที่ประชุมหรือผ่านช่องทางการสื่อสารภายใน
• การสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการ ใช้ช่องทางที่เข้าถึงง่ายและเป็นที่นิยมของพนักงาน เช่น กลุ่ม LINE และบอร์ดประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ข่าวสารกิจกรรม ผลสำเร็จ และเคล็ดลับสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

5. การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร

• จุดสูงสุดของกระบวนการคือการทำให้เรื่องสุขภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนปฏิบัติเป็นปกติ
• กำหนดให้การออกกำลังกายทุกวันศุกร์หลังเลิกงาน เป็นกิจกรรมประจำที่พนักงานสามารถเข้าร่วมได้โดยสมัครใจ ซึ่งการจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและความผูกพันที่ดีต่อกันในองค์กร
• มีการส่งเสริมให้ผู้นำในแต่ละแผนกเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้พนักงานในทีมหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นตามไปด้วย

กิจกรรมด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย

โครงการ “ลดพุงลดโรค”

นี่คือกิจกรรมหลักที่ใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากภาวะน้ำหนักเกินและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โครงการนี้มีกระบวนการที่ชัดเจน

• การตั้งเป้าหมาย พนักงานที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการตรวจวัดดัชนีมวลกาย (BMI) และรอบเอว เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการตั้งเป้าหมายส่วนบุคคล
• การให้ความรู้ มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อให้พนักงานสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน
• การติดตามผล มีการนัดหมายเพื่อตรวจวัดผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและสร้างแรงจูงใจให้พนักงานบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
• การสร้างแรงบันดาลใจ มีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของพนักงานที่สามารถลดน้ำหนักและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น

ออกกำลังกายทุกวันศุกร์หลังเลิกงาน

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านสุขภาพ จัดให้มีการรวมตัวกันของพนักงานเพื่อออกกำลังกายร่วมกันเป็นประจำทุกวันศุกร์หลังเลิกงาน

• ความหลากหลายของกิจกรรม กิจกรรมที่จัดขึ้นมีความหลากหลาย เช่น การเต้นแอโรบิก การยืดเหยียด หรือการออกกำลังกายเบาๆ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ และเหมาะสมกับพนักงานทุกเพศทุกวัย
• การมีส่วนร่วม การทำกิจกรรมร่วมกันช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน อีกทั้งยังทำให้การออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป
• การส่งเสริมผู้นำ มีการส่งเสริมให้พนักงานที่มีความสนใจเป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมออกกำลังกาย ซึ่งช่วยให้เกิดความเป็นเจ้าของและสร้างความยั่งยืนให้กับโครงการ

กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพด้านอื่นๆ

• โครงการบริจาคโลหิต จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างประโยชน์แก่สังคมแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพของตนเอง
• การรณรงค์ป้องกันปัจจัยเสี่ยง มีการจัดทำป้ายและสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อรณรงค์ให้พนักงานหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการป้องกันอุบัติเหตุในที่ทำงาน
• การส่งเสริมสุขภาวะองค์รวม มีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาวะในมิติอื่นๆ เช่น สุขภาพจิต การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างรอบด้าน

ผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

1. ด้านสุขภาพกาย ได้มีการติดตามผลการเปลี่ยนแปลงของดัชนีมวลกาย (BMI) และรอบเอวของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม พนักงานเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการ จำนวน 210 คน ลดน้ำหนักได้จำนวน 89 คน หรือ 42.38 % ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม พนักงานมีค่าเฉลี่ย BMI เกินเกณฑ์ 66.67 % หลังร่วมกิจกรรมพนักงานมีค่า BMI ตามค่ามาตรฐาน จำนวน 70 คน

2. ด้านพฤติกรรม การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องได้ช่วยปลูกฝังให้พนักงานเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพตนเอง กิจกรรมต่างๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของพนักงาน โดยเฉพาะกิจกรรมออกกำลังกายทุกวันศุกร์ ส่งผลให้พนักงานมีพฤติกรรมการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น และมีความตื่นตัวในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3. ด้านวัฒนธรรมองค์กร เกิดวัฒนธรรมองค์กรด้านการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้บริษัทกลายเป็น "องค์กรสุขภาวะ" ที่พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และมีทัศนคติเชิงบวกต่อการทำงาน ซึ่งเป็นผลจากกิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย ใจ สังคม และสติปัญญา ทำให้เกิดความยั่งยืนในองค์กรโดยรวม

ปัจจัยความสำเร็จ

• นโยบายและแรงสนับสนุนจากผู้บริหาร ทีมผู้บริหารมีนโยบายที่ให้ความสำคัญและสนใจในการดูแลสุขภาวะของพนักงานมาโดยตลอด
• การใช้ข้อมูลสุขภาพในการออกแบบกิจกรรม การนำข้อมูลดัชนีมวลกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพนักงานมาใช้ออกแบบกิจกรรม ทำให้กิจกรรมมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
• การสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสม การใช้รางวัลเป็นเครื่องมือในการจูงใจ ช่วยกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมมากขึ้น
• ความมุ่งมั่นของบุคลากรหลัก การมีบุคลากรที่มีความมุ่งมั่นเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการ เช่น นายอภิชาติ ปานทอง ซึ่งประกาศคำปฏิญาณตนในการเป็นผู้ส่งเสริมสุขภาพภายในองค์กร

บริษัท ลัคกี้เฟลม จำกัด ได้ก้าวเป็นต้นแบบองค์กรสุขภาวะที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างวัฒนธรรมการส่งเสริมกิจกรรมทางกายอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกระบวนการที่เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบด้าน การออกแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสม ปัจจัยเหล่านี้ผนวกกับความมุ่งมั่นของผู้นำและผู้บริหารได้หล่อหลอมให้องค์กรแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พนักงานมีสุขภาพกายที่ดีและมีสุขภาพใจพร้อมในการมาทำงานทุกวันอย่างมีความสุข