มาตรการรับมือภัยคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เพราะการคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ส่งผลกระทบด้านลบต่อองค์กรหลายด้าน
ผลกระทบจากปัญหานี้ส่งผลด้านลบต่อองค์กรในหลายด้าน ดังนั้นจึงเป็นภารกิจขององค์กรที่ต้องหาทางป้องกันและแก้ไขก่อนจะสร้างความเสียให้กับองค์กรอย่างยากที่จะแก้ไข
การศึกษาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศระบุถึงผลกระทบของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศว่า การถูกคุกคามทางเพศมีผลต่อสุขภาพและอารมณ์ ผู้ถูกกระทำจะมีความเครียด มีอาการปวดศีรษะ วิตกกังวล สูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง ผลกระทบจากการถูกคุกคามทางเพศสั่นคลอนตัวตนของผู้ถูกกระทำ และยังมีผลกระทบต่อการทำงาน เกิดความตึงเครียดในที่ทำงาน ผลผลิตตกตํ่า เนื่องจากต้องขาดงานบ่อย เพราะผู้ถูกกระทำจะหลีกเลี่ยงไม่อยากพบกับผู้กระทำการคุกคามทางเพศ หรือหลีกเลี่ยงการพบปะลูกค้าที่กระทำการ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและคุณภาพการทำงานอย่างมาก
หรือการสร้างบรรยากาศไม่พึงปรารถนาหรือเป็นปฏิปักษ์ ได้แก่ การใช้วาจา เช่น วิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตา แซว พูดตลกลามก ล้อเลียน ดูหมิ่นเหยียดหยามในความเป็นหญิง ความเป็นชาย หรือเพศสภาพอื่น รวมถึงรสนิยมทางเพศ หรือแสดงลักษณะทางกิริยา เช่น มองด้วยสายตาโลมเลีย ส่งจูบ ผิวปาก จับมือถือแขน ถูกเนื้อต้องตัว หรือการแสดงสิ่งของ ภาพ จดหมาย เช่น ภาพลามก ปฏิทินโป๊เปลือย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
การล่วงเกินหรือคุกคามทางเพศที่ใช้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หรือการใช้อำนาจให้คุณให้โทษจากงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งความพึงพอใจทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศนี้มักเป็นการกระทำของผู้มีอำนาจกระทำกับผู้ที่ด้อยอำนาจ มีการนำผลประโยชน์ของหน่วยงานเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งขัดหลักธรรมาภิบาลในการบริหาร ส่งผลทำลายภาพลักษณ์ของหน่วยงานได้อย่างมาก
แนวทางการดำเนินงานเมื่อเกิดปัญหาการล่วงละเมิด หรือคุกคามทางเพศในการทำงาน
มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการ เมื่อได้รับการร้องเรียนหรือร้องทุกข์ ทั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
เช่น การพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร และการประนอมข้อพิพาท โดยต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมให้มีการประนอมข้อพิพาท มีผู้ประนอมข้อพิพาทเป็นบุคคลที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้ความเคารพนับถือ และต้องมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อการควบคุมความประพฤติของผู้กระทำไม่ให้กระทำซํ้า ทั้งนี้จะดำเนินการได้ในกรณีที่การร้องเรียนไม่เป็นลายลักษณ์อักษร หากสามารถตกลงกันได้แล้ว ทั้งสองฝ่ายต้องลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร และให้เก็บไว้ในแฟ้มประวัติของทั้งสองฝ่าย
นับแต่วันที่ได้รับเรื่องร้องเรียน และต้องเป็นความลับเว้นแต่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยินดีให้เปิดเผย รวมทั้งให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และข้อมูลของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต้องเป็นความลับ ทั้งนี้ ควรดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากไม่แล้วเสร็จให้ขอความเห็นชอบผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานในการขยายเวลาออกไปได้อีก 30 วัน
ให้กลไกร้องทุกข์ภายในหน่วยงานทำหน้าที่สอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลความผิดจริงจะต้องส่งเรื่องต่อไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบด้านการสอบวินัย
ให้หัวหน้าหน่วยงานดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริง โดยต้องมีบุคคลที่มีเพศสภาพเดียวกับผู้เสียหาย ไม่น้อยกว่าหนึ่งคน และให้มีบุคคลที่ผู้เสียหายไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังในการสอบข้อเท็จจริงในกรณีมีการสอบปากคำผู้เสียหาย
ให้ผู้มีอำนาจเทียบเท่าจากหน่วยงานอื่น หรืออำนาจเหนือกว่าเป็นประธานการสอบข้อเท็จจริง และให้มีผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้แทนหน่วยงานอื่นที่มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย
ดังนี้
1) ผู้ร้องเรียนและผู้เป็นพยานจะไม่ถูกดำเนินการใด ๆ ที่กระทบต่อหน้าที่การงานหรือการดำรงชีวิต รวมถึงไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งทุกกรณี เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันความปลอดภัย หากจำเป็นต้องมีการดำเนินการใด ๆ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ร้องเรียนและผู้เป็นพยาน
2) ผู้ร้องเรียนต้องได้รับการฟื้นฟู เยียวยา และได้รับการชดเชยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สืบเนื่องมาจากการล่วงละเมิดทางเพศในการทำงาน เช่น ค่าเดินทางในการมาให้ข้อเท็จจริง หรือค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
และจะไม่ถือว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิด จนกว่าข้อกล่าวหาจะได้รับการพิสูจน์ว่ากระทำผิดจริง ผู้ร้องทุกข์และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิในการชี้แจง แสดงหลักฐานหรือพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
ประเภทสื่อ : Infographics
ผู้เขียน :
ที่มา :
ประเด็นสุขภาวะ → เพิ่มสัดส่วนผู้มีสุขภาพจิตสมบูรณ์
ประเด็น Happy 8 → Happy Society