ต้นแบบองค์กรสุขภาวะด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย บริษัท อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย-จีน จำกัด จากพนักงานติดโต๊ะสู่พนักงานสุขภาพดี
การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โดยการใช้ข้อมูลสุขภาพเป็นแรงกระตุ้นในการออกแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาอย่างแท้จริง ใช้เทคโนโลยีง่ายๆ สร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดรับฟังและปรับกิจกรรมตามความเหมาะสม

บริษัท อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย-จีน จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตน้ำมันหอมระเหย สารสกัดจากพืช และสารแต่งกลิ่นสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภคแบบครบวงจร จากการตรวจสุขภาพประจำปี 2566 บริษัทได้เผชิญกับสถานการณ์ปัญหาด้านสุขภาพของพนักงาน โดยพบว่าพนักงานกว่า 70% มีค่า BMI เกินมาตรฐาน และในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ทำงานนั่งโต๊ะตัวเลขค่า BMI เกินมาตรฐานนี้สูงถึง 90% นอกจากนี้ยังพบปัญหาค่าไขมันและน้ำตาลสูง และมีพนักงานป่วยด้วยโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ผู้บริหารตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงาน และนำไปสู่การดำเนินงานเพื่อสร้างองค์กรสุขภาวะด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
กระบวนการดำเนินงานองค์กรสุขภาวะด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ได้วางรากฐานการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพของพนักงานได้อย่างยั่งยืน
1. การวิเคราะห์ปัญหาจากข้อมูลเชิงประจักษ์
- สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือการใช้ข้อมูลสุขภาพประจำปี 2566 ของพนักงานเป็นฐานในการระบุปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
- ค้นพบปัญหาสุขภาพ ผลการวิเคราะห์พบว่าพนักงานส่วนใหญ่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เกินมาตรฐาน โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ตัวเลขสูงถึง 90%
- กำหนดเป้าหมาย ข้อมูลเหล่านี้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริหารตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างกิจกรรมสุขภาวะเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพให้กับพนักงาน
2. การสร้างทีมขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
- จัดตั้ง "Happy Workplace Team" ได้ปรับโครงสร้างทีมงาน โดยเปลี่ยนจากการเลือกตัวแทนของแต่ละแผนกมาเป็นการคัดเลือกพนักงานที่มีความสนใจและมีจิตอาสาอย่างแท้จริง
- เสริมสร้างศักยภาพทีม ทีมงานที่ได้รับการคัดเลือกจะมีความกระตือรือร้นในการขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
- การผนวกเทคโนโลยี ดึงทีม IT เข้ามาช่วยสนับสนุนในด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการติดตามผลและสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานผ่านช่องทางดิจิทัล
3. การออกแบบและพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์
- ออกแบบกิจกรรมตามปัญหา ทีมงานได้นำข้อมูลสุขภาพที่วิเคราะห์มาใช้ในการออกแบบกิจกรรมที่ตรงจุด เช่น โครงการลดน้ำหนัก "เชฟบะ" ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ปัญหา BMI เกินมาตรฐาน
- สร้างแรงจูงใจและความต่อเนื่อง กิจกรรมถูกออกแบบให้มีกลไกในการสร้างแรงจูงใจ เช่น การแข่งขัน การมอบรางวัล และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการติดตามผล เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการเข้าร่วม
- ปรับเปลี่ยนตามข้อเสนอแนะ มีความยืดหยุ่นในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพนักงาน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น การยกเลิกกิจกรรม "Morning Exercise" ที่ทำให้พนักงานเกิดความเครียด
4. การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
- การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ ใช้เครื่องมือที่พนักงานคุ้นเคยและเข้าถึงง่าย เช่น กลุ่ม Line ในการติดตามผลการทำกิจกรรม Virtual Run และการรายงานผล
- การวัดผลที่หลากหลาย มีการวัดผลทั้งในเชิงปริมาณ เช่น การลดลงของค่า BMI และในเชิงคุณภาพ เช่น ความพึงพอใจและทัศนคติของพนักงาน
- การรายงานผล มีการรายงานผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานเห็นความคืบหน้าและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
5. การสร้างความยั่งยืนให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร
- วิสัยทัศน์ระยะยาว ผู้บริหารและทีมงานมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสุขภาวะองค์กรอย่างต่อเนื่องในระยะยาวถึง 10 ปี เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตพนักงาน
- การปลูกฝังพฤติกรรม การดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องช่วยปลูกฝังให้พนักงานเกิดพฤติกรรมที่ดีและใส่ใจในสุขภาพของตนเองในระยะยาว
กิจกรรมด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะด้านต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน ดังนี้
- โครงการลดน้ำหนัก “เชฟบะ” โครงการแรกที่มุ่งแก้ไขปัญหา BMI เกินมาตรฐาน โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่เชิญทีมโภชนาการเข้ามาให้ความรู้ มีการจัดกิจกรรมแบบแข่งขันพร้อมรางวัลรายเดือนและรางวัลใหญ่เมื่อจบโครงการ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก
- โครงการ Virtual Run ต่อยอดเพื่อรักษาน้ำหนักหลังจบโครงการเชฟบะ โดยพนักงานสามารถส่งผลการวิ่งผ่านระบบออนไลน์และกลุ่ม Line ได้ตลอดเวลา พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษ "1 กิโลเมตร = 1 บาท" เพื่อสมทบทุนบริจาคทำขาเทียม ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมทางสังคม การแชร์ผลงานในกลุ่ม Line สร้างแรงจูงใจให้คนอื่น และผลลัพธ์สุดท้ายคือได้เงินบริจาค 60,000 บาท ซึ่งแสดงถึงการมีส่วนร่วมที่สูงและประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีในการจัดการโครงการ
- Healthy Lunch Program ปรับปรุงสวัสดิการอาหารกลางวันฟรีที่มีอยู่แล้ว โดยเปลี่ยนเมนูอาหารให้เป็นเพื่อสุขภาพมากขึ้น และเปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้องผสมข้าวไรส์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบเชิงบวกโดยไม่ต้องเพิ่มงบประมาณมาก
- MIO Program โครงการฝึกสติ เพื่อแก้ปัญหาด้านความเครียดและป้องกันการลาออกเนื่องจาก Burnout
ผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน แบ่งออกเป็นมิติต่างๆ ดังนี้
- ด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (เชิงปริมาณ) ค่า BMI เกินมาตรฐานในกลุ่มพนักงานออฟฟิศลดลงจาก 90% เหลือ 60% พนักงานที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดน้ำหนักได้สูงสุด 10 กิโลกรัมใน 5 เดือน และมี 10% ที่ค่า BMI กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ พนักงานที่เข้าร่วมโครงการสามารถรักษาน้ำหนักไว้ได้จนถึงปัจจุบัน
- ด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (เชิงคุณภาพ) พนักงานมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อการดูแลสุขภาพ เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และเกิดการแบ่งปันผลการออกกำลังกายในกลุ่ม Line ซึ่งสร้างแรงกระตุ้นทางสังคม
- ด้านการดูแลสุขภาพเชิงรุก ขยายการติดตามผลสุขภาพจากแค่ค่า BMI ไปสู่ค่าไต, ไขมัน, น้ำตาล และสร้างระบบเรียกพนักงานที่มีความเสี่ยงมาให้คำปรึกษาทุก 3 เดือน เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
- ด้านอื่นๆ เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการดูแลสุขภาพ พนักงานมีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น และองค์กรสามารถลดการลาป่วยได้
ปัจจัยความสำเร็จ
- การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งในด้านนโยบายและทรัพยากร รวมถึงเป็นแบบอย่างในการเข้าร่วมกิจกรรม
- การสร้างทีมที่มีความสนใจอย่างแท้จริง เปลี่ยนจากการแต่งตั้งตัวแทนแผนกมาเป็นการคัดเลือกทีมงานที่มีจิตอาสาและแรงจูงใจภายใน
- การใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ใช้ผลการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นจุดเริ่มต้นในการระบุปัญหาและออกแบบกิจกรรมที่ตรงจุด
- การใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่าย ใช้เทคโนโลยีที่พนักงานคุ้นเคย เช่น Line ในการสื่อสารและติดตามผล
- การปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความเหมาะสม มีความยืดหยุ่นในการรับฟังข้อเสนอแนะและปรับกิจกรรมตามความต้องการของพนักงาน
- การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก สร้างพันธมิตรกับโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อขอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้ความรู้
ในการก้าวข้ามอุปสรรคทางสุขภาพของพนักงานไปสู่การเป็นองค์กรต้นแบบด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หัวใจสำคัญคือการเริ่มต้นจากข้อมูลที่แท้จริง การสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน และการมองสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร การดำเนินงานภายใต้แนวคิด "บ้านหลังที่ 2" ทำให้การส่งเสริมสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมชั่วคราว แต่เป็นการแสดงออกถึงการดูแลพนักงานในฐานะสมาชิกในครอบครัวที่มีความห่วงใยและใส่กัน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาวและสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในที่สุด





ผู้เขียน :
ประเด็นสุขภาวะ → เพิ่มกิจกรรมทางกาย
ประเด็น Happy 8 → Happy BodyHappy Society