บุหรี่ไฟฟ้า: จากความนิยมสู่ภัยเงียบในที่ทำงาน

บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาววัยทำงาน จำนวนผู้สูบพุ่งขึ้นถึง 10 เท่าภายใน 1 ปี

ภาพประกอบ

บุหรี่ไฟฟ้าบุกการตลาดคนรุ่นใหม่

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาววัยทำงาน จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในประชากรกลุ่มอายุ 18-30 ปี พบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าภายใน 1 ปี จากราว 78,000 คนในปี 2564 เป็นประมาณ 700,000 คนในปี 2565

บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายเท่าบุหรี่มวน

ปัจจัยที่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยม ได้แก่ ภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย หาซื้อง่ายตามช่องทางออนไลน์ ทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติหลากหลาย (มากกว่า 16,000 ชนิด) และที่สำคัญคือ ความเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดาและทำให้เลิกบุหรี่ธรรมดาได้ง่ายขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น

  1. มีปริมาณนิโคตินสูงเทียบเท่าบุหรี่ธรรมดา 20 ซอง ซึ่งเป็นสารเสพติดและอันตรายต่อสมอง โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน
  2. ไอความร้อนสูงทำลายเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ
  3. มีสารก่อมะเร็งและสารปรุงแต่งกลิ่นที่ทำลายเยื่อบุหลอดลม
  4. ทำให้เกิดอาการป่วยได้นานถึง 12 ปี
  5. มีสารเคมีอันตรายกว่า 7,000 ชนิด เทียบเท่าบุหรี่ธรรมดา

ความเชื่อที่ผิดช่วยเลิกบุหรี่มวน

มีความเชื่อที่ผิดว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่มวนได้ องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับเลิกบุหรี่ มีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีอื่น และอาจทำให้ติดทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงไม่น้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา

บุหรี่ไฟฟ้านำไปสู่นักสูบหน้าใหม่

บุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงส่งผลกระทบต่อพนักงานคนใดคนหนึ่ง แต่ยังส่งผลต่อเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ เนื่องจากต้องทำงานร่วมกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจสร้างความเดือดร้อนรำคาญและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่ จากการได้รับควันบุหรี่ในสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการสูบบุหรี่ของพนักงานที่ติดบุหรี่ยังอาจส่งผลต่อการชักนำให้พนักงานบางส่วนที่ไม่เคยสูบบุหรี่กลายเป็นนักสูบหน้าใหม่ได้อีกด้วย

บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย

ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าผิดกฎหมาย มีความผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้ขายและผู้ใช้ แม้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในคนวัยทำงาน แต่บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ระบุว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ สูบในสถานที่สาธารณะ มีบทลงโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานที่สูบหรือครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าอาจได้รับโทษตามกฎหมาย

องค์กรปลอดบุหรี่เพื่อประโยชน์ของทุกคน

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพพนักงาน ส่งผลด้านลบต่อองค์กรหลายด้าน การสร้างองค์กรปลอดบุหรี่จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยปกป้องสุขภาพพนักงาน ทั้งในกลุ่มที่สูบบุหรี่และกลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันสุขภาพ การขาดงาน จากปัญหาสุขภาพที่เป็นผลตามมาจากการสูบบุหรี่


เนื้อหาในหัวข้อนี้

ขั้นตอนดำเนินการ


ตัวอย่างกิจกรรม


เครื่องมือสนับสนุนการทำงาน


เครื่องมือประเมินตนเอง


Case study


เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง



ประเด็นสุขภาวะ → ลดการบริโภคยาสูบ

ประเด็น Happy 8 → Happy Body

เครื่องมือสร้างองค์กรสุขภาวะ

1

สร้างการเรียนรู้ และความเข้าใจ องค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace)

สร้างการเรียนรู้ และความเข้าใจ องค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace)

ReadHappy Workplace คืออะไร

2

ตั้งคณะทำงาน และพัฒนาทีมงาน (นักสร้างสุของค์กร)

ตั้งคณะทำงาน และพัฒนาทีมงาน (นักสร้างสุของค์กร)

DownloadTemplate ตั้งคณะทำงาน

3

สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาในองค์กร

สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาในองค์กร

Toolทำแบบประเมินคุณลักษณะองค์กรสุขภาวะ

5

ออกแบบ ดำเนินกิจกรรม และสื่อสารเพื่อสร้างแรงจูงใจ

ออกแบบ ดำเนินกิจกรรม และสื่อสารเพื่อสร้างแรงจูงใจ

Toolเครื่องมือออกแบบโครงการ
DownloadTemplate แผนกิจกรรม
DownloadTemplate รายงานผลกิจกรรม

7

ทบทวนและพัฒนากิจกรรมที่ดำเนินงาน

ทบทวนและพัฒนากิจกรรมที่ดำเนินงาน

8

ส่งเสริมความยั่งยืนในการเกิดวัฒนธรรมสร้างสุขขององค์กร

ส่งเสริมความยั่งยืนในการเกิดวัฒนธรรมสร้างสุขขององค์กร