สถานการณ์การเงิน “แก่ก่อนรวย”

ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เมื่อประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมายในสังคม แต่ข้อมูลจากการสำรวจพบว่าคนไทยจำนวนมากเข้าสู่วัยเกษียณโดยไม่มีเงินออมที่เพียงพอ เกิดสภาวะ "แก่ก่อนรวย" ในสังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นการสร้างความรอบรู้เรื่องการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานวันแรก การเห็นความสำคัญและเริ่มออมเงินทุกเดือนตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จะช่วยป้องกันปัญหา “แก่ก่อนรวย” และช่วยให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น

จากผลการวิจัยของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แนะนำว่าคนไทยควรมีเงินออมอย่างน้อยคนละ 3 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างคล่องตัว แต่ ‘ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ’ (NRRI) กลับชี้ว่าคนไทยมีความพร้อมทางด้านการเงินต่ำกว่า 40% ซึ่งอาจทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่ลำบาก หรือสร้างภาระให้กับผู้ดูแลอย่างบุตรหลาน เนื่องจากเงินออมที่ไม่เพียงพอ การขาดความรอบรู้ทางการเงินและการวางแผนเกษียณที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยจำนวนมากประสบปัญหานี้ ดังนั้น ผู้สูงอายุหรือวัยกลางคนที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนและการออม เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างหลักประกันทางการเงินที่มั่นคง อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ

ความสำคัญของการวางแผนการเงินในที่ทำงาน

องค์กรมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้พนักงานมีความมั่นคงทางการเงิน โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายของสังคมผู้สูงอายุ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการออมตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน และการเตรียมตัวเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่เพียงช่วยพนักงานให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี แต่ยังส่งผลดีต่อองค์กรในระยะยาว

มีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าพนักงานที่มีความมั่นคงทางการเงินและได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม มีความเครียดลดลงและประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้องค์กรที่มีโปรแกรมส่งเสริมการวางแผนการเงินและสวัสดิการที่ดี ยังสามารถลดอัตราการลาออกและดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น

การส่งเสริมวินัยการเงินและการเตรียมตัวเกษียณในองค์กรไม่ใช่เพียงสวัสดิการเพิ่มเติม แต่เป็นการลงทุนในทรัพยากรบุคคลที่มีองค์กรจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาอย่างสูง เป็นประโยชน์ทั้งต่อพนักงานและองค์กร องค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหา "แก่ก่อนรวย" ในระดับสังคม แต่ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันผ่านการมีพนักงานที่มีความมั่นคงทางการเงินและมีความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว การสร้างวัฒนธรรมแห่งการออมและการวางแผนการเงินที่ดีจึงเป็นกลยุทธ์ที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญในยุคสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย