เพื่อสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี พนักงานมีความตื่นตัวกระฉับกระเฉง ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง องค์กรควรมีมาตรการสนับสนุนการเพิ่มระดับกิจกรรมทางกายในระหว่างการทำงาน เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กร “วิถีกระฉับกระเฉง ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง” ให้เกิดขึ้น

1. ฝ่ายบุคคลสำรวจข้อมูล

ออกแบบสอบถามเพื่อศึกษาและพิจารณาปัญหาหรือสาเหตุของการขาดกิจกรรมทางกายในองค์กร/สถานประกอบการ และสภาวะสุขภาพของพนักงานในเบื้องต้น

เครื่องมือแนะนำ

• Checklist 12 สัญญาณอันตราย เตือนต้องขยับ!

• คัดกรองภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน

• แบบประเมินตนเอง ด้านกิจกรรมทางกาย

2. ออกแบบกระบวนการและส่งเสริมกิจกรรมทางกายในสถานประกอบการ

ออกแบบกิจกรรมเน้นสร้างการมีส่วนร่วมที่ตอบโจทย์คนทำงาน ออกแบบกิจกรรมที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่มาก ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ในวิถีประจำวันในที่ทำงาน

• ผู้บริการเป็นต้นแบบทำตามนโยบาย ผู้บริหารกำหนดนโยบายจูงใจและประกาศเชิญชวนพนักงาน และเป็นต้นแบบ
• ส่งเสริมการจัดกลุ่มหรือชมรมออกกําลังกายตามความสนใจของพนักงาน ควรให้พนักงานมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มและบริหารจัดการกิจกรรมภายในกลุ่มเอง และมีการสนับสนุนด้านงบประมาณ สถานที่ และอุปกรณ์
• จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น ห้องอาบน้ำ ลู่วิ่ง โต๊ะปิงปอง จุดจอดจักรยานที่ปลอดภัย โต๊ะทำงานแบบยืน เก้าอี้ ลูกบอล ฯลฯ
• รณรงค์การมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง ในสถานที่ทำงาน เช่น การเดินขึ้นลงบันได การยืดเหยียด การเดินรับส่งเอกสาร การปั่นจักรยาน การเดินระหว่างอาคาร เป็นต้น
• โปสเตอร์/สติกเกอร์/ป้าย ที่มีข้อความจูงใจ เตือน และให้คำแนะนำในการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เช่น ติดสติกเกอร์ รูปภาพโปสเตอร์ข้อความจูงใจให้ใช้บันได ติดข้อความเกี่ยวกับปริมาณแคลอรีของอาหารในโรงอาหาร หรือข้อความที่แสดงการเผาผลาญแคลอรีผ่านการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ

ตัวอย่างกิจกรรม

• กิจกรรม “เปิดฟลอร์มอร์นิ่งเฟรช” ชวนมาทำกิจกรรมประจำวันที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น เวลา 7.55 น. ก่อนเข้างาน

• กิจกรรม 10 นาทีก็สุขได้ กิจกรรมที่จัดในช่วงพัก (9.30–9.40 น. และ 15.00-15.10 น.) เพื่อให้พนักงานได้ผ่อนคลายความเครียดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

• กิจกรรม “Healthy Tournament พิชิตอ้วน”

• กิจกรรม “ชมรมมือใหม่ – หัดขยับไปด้วยกัน”

เคล็ดลับการออกแบบกิจกรรม

• สร้างความต่อเนื่องผ่านเกมการแข่งขัน ใช้กุศโลบายให้ทีม/ผู้ชนะต้องรักษาตำแหน่งในการแข่งขัน และทีม/ผู้แพ้ต้องวางแผนก้าวสู่อันดับที่สูงขึ้น เพื่อให้พนักงานดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
• เน้นรวมกลุ่มทำด้วยกันตลอดปี จัดกิจกรรมที่หลากหลายต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นการรวมกลุ่มทำด้วยกัน เพื่อให้เกิดการให้กำลังใจกัน ช่วยเหลือกัน และชวนกันทำต่อเนื่อง
• สนับสนุนการรวมกลุ่มชมรม การทำไปด้วยกันเป็นพลังทางสังคม การรวมตัวเป็นชมรมคนที่ชอบเหมือนกัน ต่างสามารถเป็นแรงผลักดันให้กันและกัน เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้มากกว่าทำคนเดียว
• ผู้บริหารให้ความสำคัญ เป็นต้นแบบ มีกระบวนการ วิธีการที่ทำให้พนักงานตระหนักต่อภาวะโรคอ้วนลงพุง และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสร้างกระแสให้คนในองค์กรกระตือรือร้นสนใจเข้าร่วมกิจกรรม
• สร้างวัฒนธรรมองค์กรตื่นตัวแอคทีฟ ทำให้เรื่องการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย การขยับร่างกาย การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างแอคทีฟอยู่เสมอเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนเห็นความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมได้แบบง่าย ๆ

3. ติดตามและประเมินผลกระบวนการ กิจกรรม และสรุปผลลัพธ์

คิดค้นระบบแสดงผลการเปลี่ยนแปลงที่เห็นเป็นตัวเลขรูปธรรม ออกแบบระบบที่ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลง เช่น ชวนชั่งน้ำหนักต้นเดือน บันทึกผลไว้แล้วปลายเดือนมาชั่งน้ำหนักกันอีกครั้งเพื่อดูว่าแต่ละคนน้ำหนักลดหรือไม่ ปริมาณคนที่น้ำหนักลดมีเท่าใด หรือชวนเข้าร่วมภารกิจเก็บก้าวการเดิน รวมผลก้าวการเดินของคนที่เข้าร่วมกิจกรรมรายสัปดาห์ว่า ผลรวมการเดินของทุกคนเป็นเท่าไหร่ เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากสัปดาห์ก่อน เป็นต้น ตัวเลขที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ทั้งเป็นการแสดงผลลัพธ์ของกิจกรรม และกระตุ้นให้พนักงานอยากเข้ามามีส่วนร่วมสร้างสถิติต่าง ๆ ไปด้วยกันอย่างสนุกสนาน